วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2554

หงส์แดง ลิเวอร์พูล เครื่อง จักรสีแดง


สโมสรฟุตบอลลิเวอร์พูล (อังกฤษLiverpool Football Club) เป็นหนึ่งในสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดทีมหนึ่งในฟุตบอลอังกฤษ ลิเวอร์พูลครองแชมป์ดิวิชั่น 1 ถึง 18 ครั้ง ครองแชมป์ยูโรเปียนคัพ 5 ครั้ง ก่อตั้งใน วันที่ 15 มีนาคม ปี พ.ศ. 2435 (ค.ศ. 1892) ลิเวอร์พูลเป็นสโมสรหนึ่งในกลุ่มจี-14 มีฉายาในภาษาไทยว่า "หงส์แดง" พร้อมด้วยคำขวัญ "You'll Never Walk Alone"
สโมสรลิเวอร์พูลก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2435 และก้าวขึ้นมาเป็นสโมสรแนวหน้าของอังกฤษอย่างรวดเร็วจนประสบความสำเร็จเป็นแชมป์ลีกสูงสุดชองประเทศครั้งแรกในปี พ.ศ. 2444(ฤดูกาล1900/01) และครั้งที่สองในปี พ.ศ. 2449 (ฤดูกาล 1905/06) ครั้งที่ 3 และ 4 เป็นแชมป์สองฤดูกาลติดใน พ.ศ. 2465 กับ พ.ศ. 2466 (ฤดูกาล1921/22 กับ 1922/23) แชมป์ลีกสูงสุดครั้งที่ 5 คือปี พ.ศ. 2490 (ฤดูกาล 1946/47) อย่างไรก็ตามลิเวอร์พูลพบกับช่วงตกต่ำต้องไปเล่นในในดิวิชัน 2 ใน พ.ศ. 2497 (ฤดูกาล1953/54) ภายหลังจึงได้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสโมสรในปี พ.ศ. 2502 สโมสรได้แต่งตั้ง บิลล์ แชงก์คลี เป็นผู้จัดการทีม เขาได้เปลี่ยนแปลงทีมไปอย่างมาก จนประสบความสำเร็จได้เลื่อนชั้นในปี พ.ศ. 2505(ฤดูกาล 1961/62) และได้แชมป์ลีกสูงสุดของประเทศอีกครั้งใน พ.ศ. 2507 (ฤดูกาล 1963/64) หลังจากรอคอยมานานถึง 17 ปี บิล แชงก์ลี คว้าแชมป์เอฟเอคัพเป็นถ้วยแรกของสโมสรลิเวอร์พูลในปี พ.ศ. 2508 (ฤดูกาล 1964/65)และคว้าแชมป์ดิวิชั้น1อีกครั้งในฤดูกาลต่อมา พ.ศ. 2509 (ฤดูกาล 1965/66) ความสำเร็จของแชงก์ลียังเดินหน้าต่อไป เมื่อลิเวอร์พูลคว้าแชมป์ยูฟ่าคัพ พร้อมแชมป์ดิวิชั่น 1 ใน พ.ศ. 2516 (ฤดูกาล 1972/73) และเอฟเอคัพ อีกครั้งใน พ.ศ. 2517 (ฤดูกาล 1973/74) หลังจากนั้นบิลล์ แชงก์คลีขอวางมือจากสโมสร โดยให้ผู้ช่วยของเขาสืบทอดตำแหน่ง ผู้จัดการทีมแทน นั่นคือ บ็อบ เพสส์ลี่
สโมสรต้องประสบกับความซบเซาในช่วงหนึ่งหลังจากได้แชมป์ลีกสูงสุดในปี พ.ศ. 2533 คือได้เพียงเอฟเอคัพ 1 ใบ ปี พ.ศ. 2535 กับลีกคัพ 1ใบในปี พ.ศ. 2538 แต่ก็ฟื้นฟูขึ้นมาได้เมื่อพวกเขาสามารถคว้าแชมป์บอลถ้วยทั้งในระดับประเทศและระดับทวีปถึง 3 แชมป์ (คาร์ลิ่ง ลีกคัพ,เอฟเอคัพ รวมทั้งยูฟ่าคัพ) ได้ในปี พ.ศ. 2544 (ฤดูกาล 2000/01) ในปี 2544 นี้ลิเวอร์พูลยังคว้าถ้วยยูฟ่าซูเปอร์คัพที่เอาชนะบาร์เยิร์น มิวนิค แชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกในปีนั้น รวมทั้งเอาชนะแมนฯยูฯคู่ปรับตัวฉกาจในถ้วยแชริตี้ชิลด์ก่อนเปิดฤดูกาลพรีเมียร์ลีกเป็นปีที่หอมหวานปีหนึ่งของกองเชียร์ลิเวอร์พูล นักเตะสำคัญยุคนั้นได้แก่ไมเคิล โอเวนเอมิล เฮสกี้สตีเว่น เจอร์ราร์ดซามี ฮูเปีย และ ยอร์น อาร์เน่ รีเซ่ เป็นต้น ทีมชุดนี้ผู้จัดการทีมคือ เชร์รา อุลลิเย่ ชาวฝรั่งเศส ผลงานเป็นชิ้นเป็นอันส่งท้ายของอุลลิเย่คือ การนำทีมลิเวอร์พูลชนะแมนฯยูฯ 2-0 ในนัดชิงฟุตบอลลีกคัพ พ.ศ. 2546 (ฤดูกาล 2002/03) แชมป์ที่ยิ่งใหญ่อีกครั้งของลิเวอร์พูลคือปี 2548 ชนะในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ลีกเป็นครั้งที่ 5 ของสโมสร ซึ่งเป็นการแข่งขันที่ตื่นตาตื่นใจครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์บอลยุโรป เมื่อลิเวอร์พูลไล่ตีเสนอทีมเอซี มิลาน เป็น 3 -3 ทั้งที่โดนยิงนำไปก่อนถึง 3 -0 และในที่สุดคว้าแชมป์มาได้จากการยิงจุดโทษชนะ 3-2 เป็นทีมจากอังกฤษที่ครองถ้วยยูโรเปียนคัพ (ปัจจุบันคือ ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก) มากครั้งที่สุดถึง 5 สมัย ผู้เล่นที่สำคัญในยุคนั้น อาทิสตีเว่น เจอร์ราร์ดชาบี อาลอนโซดีทมา ฮามันน์วลาดิเมียร์ ซมิเซอร์เจอร์ซี่ ดูเด็ค และเจมี คาร์ราเกอร์ คุมทัพโดย ผู้จัดการทีมสัญชาติสเปน ราฟาเอล เบนิเตซ ในฤดูกาลต่อมา พ.ศ. 2549 (ฤดูกาล 2005/06) ลิเวอร์พูลของเบนิเตซทำให้แฟนบอลต้องลุ้นอีกครั้ง ในนัดชิงเอฟเอคัพ เมื่อต้องอาศัยลูกยิงมหัศจรรย์ของ สตีเว่น เจอร์ราร์ดในช่วงทดเวลาบาดเจ็บตีเสมอทีมเวสต์แฮม ยูไนเต็ดคู่ชิงแชมป์ในปีนั้นทำให้เสมอกันที่ 3-3 ต้องตัดสินแชมป์ด้วยการยิงจุดโทษอีกครั้ง และลิเวอร์พูลก็สามารถชนะไปได้ 3-1 เป็นแชมป์สำคัญรายการล่าสุดที่ลิเวอร์พูลทำได้ แต่รายการที่แฟนบอลต้องการมากที่สุดคือแชมป์ลีกของประเทศ หรือพรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน ซึ่งปีล่าสุดที่ลิเวอร์พูลคว้ามาได้คือ พ.ศ. 2533 (ฤดูกาล 1989/90) จากการคุมทีมของเคนนี ดัลกลิช ซึ่งต่อมาภายหลังดัลกลิสสามารถนำแบล็คเบิร์น โรเวอร์สคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ในปี พ.ศ. 2538 (ฤดูกาล 1994/95)
สนามปัจจุบันของสโมสรคือ แอนฟิลด์ มีความจุ 45,362 คน ในขณะเดียวกันสนามใหม่กำลังถูกวางแผนก่อสร้างในชื่อ สนามสแตนลีย์พาร์ก ความจุประมาณ 60,000 อยู่ในระหว่างการเจรจาระหว่างเจ้าของและทางเอชเคเอส สำนักงานสถาปนิกอเมริกัน 

ประวัติสโมสร

จอห์น โฮลดิ้ง นักธุรกิจชาวเมืองลิเวอร์พูลได้เช่าพื้นที่บริเวณ แอนฟิลด์ โรด เพื่อใช้สร้างสนามฟุตบอล และเมื่อสร้างเสร็จได้ให้สโมสรฟุตบอลเอฟเวอร์ตัน เช่าเป็นสนามแข่ง และเมื่อทีมเอฟเวอร์ตันได้เข้าสู่สมาชิกฟุตบอลลีก จอห์น โฮลดิ้ง พยายามจะเข้าไปบริหารงานในทีมเอฟเวอร์ตันและได้เพิ่มค่าเช่าสนามที่ทีมได้เช่าอยู่ ฝ่ายกลุ่มบริหารของเอฟเวอร์ตันจึงยกเลิกสัญญาเช่าสนาม และทีมเอฟเวอร์ตันได้ย้ายสนามไปอีกฝากของสวนสาธารณะ สแตนลี่ย์พาร์ค เพื่อไปสร้างสนามเป็นของตัวเองโดยใช้ชื่อสนามว่า กูดีสันพาร์ก ดังนั้น จอห์น โฮลดิ้ง จึงต้องการสร้างทีมฟุตบอลขึ้นมา และ จอห์น โฮลดิ้ง จึงไปชวนเพื่อนสนิทของเขาชื่อ จอห์น แมคเคนน่า มาทำหน้าที่ประธานสโมสรและได้ตั้งชื่อทีมฟุตบอลนี้ว่า Liverpool Football Club

[แก้]ยุคก่อตั้งสโมสร

สนามแอนฟิลด์
หลังจากที่สโมสรลิเวอร์พูลก่อตั้งได้ไม่นาน ได้จัดการแข่งขัดนัดอุ่นเครื่อง ซึ่งเป็นการลงสนามนัดแรกของทีมลิเวอร์พูลกับทีมร็อตเตอร์แฮม ซึ่งผลการแข่งขันปรากฏว่า ทีมลิเวอร์พูลชนะไปด้วยผลการแข่งขัน 7-1 และลิเวอร์พูล ได้ลงแข่งขันฟุตบอลลีกของแคว้น แลงคาเชียร์ ปรากฏว่าลิเวอร์พูลลงแข่งทั้งหมด 22 นัด ชนะ 17 นัด และได้แชมป์ไปครอง ส่งผลให้ทางสโมสรสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกซึ่งได้รับการยอมรับและถูกคัดเลือกให้ลงเล่นในดีวิชั่น 2 ในฤดูกาล 1893-1894 สโมสรจึงได้เลือกสัญลักษณ์ของทีมเป็น นกลิเวอร์เบิร์ด (Liverbird) ซึ่งเป็นนกแถบทะเลไอริช บริเวณแม่น้ำเมอร์ซี่ย์ โดยที่ปากนกคาบใบไม้ไว้ ทีมลิเวอร์พูลได้ลงทำการแข่งขันอย่างเป็นทางในฟุตบอลลีก ดิวิชั่น 2 ในวันที่ 2 กันยายน ค.ศ. 1893 โดยทีมลิเวอร์พูลออกไปเยือนทีมมิดเดิลสโบรซ์ ไอโรโนโปลิส และทีมลิเวอร์พูลสามารถได้แชมป์มาครองโดยที่ไม่แพ้ทีมใดเลยตลอดทั้งฤดูกาล (ทั้งหมด 28 นัด) แต่การคว้าแชมป์ลีกดิวิชั่น 2 ในตอนนั้นยังไม่ได้เลื่อนชั้นโดยทันที ต้องไปแข่งนัดชิงดำกับทีมอันดับสองก่อน โดยทีมอันดับสองในขณะนั้นคือ ทีมนิวตัน ฮีธ (ทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดในปัจจุบัน) และลงแข่งขันที่สนามของทีมแบล็คเบิร์น ซึ่งทีมลิเวอร์พูลเอาชนะทีมนิวตัน ฮีธไปด้วยผล 2-0 และได้เลื่อนชั้นสู่ดิวิชั่น 1 ในที่สุด

[แก้]ที่มาของ The Kop

ด้านหน้าอัฒจันทร์ฝั่ง เดอะ ค็อป
เดอะ ค็อป เป็นชื่อที่ใช้เรียกตามชื่อของเนินเขาแห่งหนึ่งใน นาทาล ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งคนท้องถิ่นจะรู้จักกันในนาม สปิออน ค็อป โดยเกิดเหตุการณ์การทำสงครามบัวร์ขึ้นในช่วงปี ค.ศ. 1900อังกฤษได้ส่งทหารไปกว่า 300 นาย โดยส่วนใหญ่เป็นชาวเมืองลิเวอร์พูล แต่แล้วในสงครามนั้นเกิดเหตุการณ์น่าเศร้าขึ้นคือ อังกฤษได้เสียทหารไปเกินกว่าครึ่ง เพื่อเป็นการรำลึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น นักข่าวกีฬาของหนังสือพิมพ์ลิเวอร์พูลเดลี่โพสต์ ชื่อ เออร์เนสต์ เอ็ดเวิร์ตส์ จึงเสนอชื่อ สปิออน ค็อป ตามชื่อของเนินเขาลูกนั้น เป็นชื่อของอัฒจันทร์หลังประตูในการสร้างสนามใหม่ขึ้นมา เพื่อเป็นเกียรติในความกล้าหาญของทหารอังกฤษทั้ง 300 นาย ซึ่งต่อมาอัฒจันทร์แห่งนี้ได้กลายอัฒจันทร์ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกของฟุตบอลแห่งหนึ่ง. ในปี ค.ศ. 1928 ได้มีการต่อเติมอัฒจันทร์แห่งนี้ใหม่ และเมื่อใดเมื่อมีการแข่งขันฟุตบอลของทีมลิเวอร์พูลขึ้น คนที่ไปดูการแข่งขันของทีมบนอัฒจันทร์จะเรียกตัวเองว่า เดอะ ค็อป (The Kop) และแล้วจากเหตุการณ์โศกนาฎกรรมที่สนามฮิลส์โบโร่ ในปี ค.ศ. 1989 ซึ่งเกิดการถล่มของอัฒจันทร์ขึ้น ในการแข่งขันฟุตบอลเอฟเอ คัพ กับ นอร์ทติ้งแฮม ฟอเรสต์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไป 96 คน จึงมีคำสั่งให้ทุกสนามเปลี่ยนจากอัฒจันทร์ยืนเป็นแบบนั่งทั้งหมด และนั่นเป็นการปิดฉากของอัฒจันทร์ สปิออน ค็อป อัฒจันทร์แบบยืนที่มีความยิ่งใหญ่แห่งหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ก็มีอัฒจันทร์ใหม่ขึ้นมาและใช้ชื่อว่า นิว ค็อป ซึ่งความหมายต่าง ๆ ยังคงเหมือนเดิม แม้ชื่ออัฒจันทร์จะเปลี่ยนไปแล้วก็ตาม นิว ค็อป ยังคงมีกลิ่นอายของประวัติเหล่านั้นอยู่เต็มเปี่ยม โดยปกติแล้วเมืองลิเวอร์พูลจะไม่ค่อยคึกคักเท่าไหร่ แต่ทว่าเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่รายล้อมอยู่บนทุกๆที่ไม่ว่าจะถนนสายไหน

[แก้]ผู้เล่นชุดปัจจุบัน

ณ วันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2011[3]

[แก้]ผู้เล่นชุดพรีเมียร์ลีก

Note: ธงชาติที่ปรากฎบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะบางผู้เล่นอาจถือสองสัญชาติ
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
2ธงชาติของอังกฤษDFเกล็น จอห์นสัน
4ธงชาติของโปรตุเกสMFราอูล เมยเรเลส
5ธงชาติของเดนมาร์กDFดาเนียล แอ็กเกอร์
6ธงชาติของบราซิลDFฟาบิโอ ออเรลิโอ
7ธงชาติของอุรุกวัยFWหลุยส์ ซัวเรซ
8ธงชาติของอังกฤษMFสตีเฟน เจอร์ราร์ด (กับตันทีม)
9ธงชาติของอังกฤษFWแอนดี คาร์โรลล์
10ธงชาติของอังกฤษMFโจ โคล
14ธงชาติของเซอร์เบียFWมิลาน โยวาโนวิช
16ธงชาติของกรีซDFโซทิริออส คีร์เกียกอส
17ธงชาติของอาร์เจนตินาMFมักซี โรดริเกวซ
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
18Flag of the NetherlandsFWเดียร์ค เคาท์
21ธงชาติของบราซิลMFลูคัส เลวา
22ธงชาติของสกอตแลนด์DFแดนนี วิลสัน
23ธงชาติของอังกฤษDFเจมี คาร์ราเกอร์ (รองกัปตันทีม)
24ธงชาติของฝรั่งเศสFWดาวิด เอ็นก็อก
25ธงชาติของสเปนGKเปเป เรนา
26ธงชาติของอังกฤษMFเจย์ สเพียริง
28ธงชาติของเดนมาร์กMFคริสเตียน โพลเซน
33ธงชาติของอังกฤษMFจอนโจ เชลวีย์
34ธงชาติของอังกฤษDFมาร์ติน เคลลี
37ธงชาติของสโลวาเกียDFมาร์ติน สเคอร์เทล

[แก้]ผู้เล่นสำรอง

Note: ธงชาติที่ปรากฎบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะบางผู้เล่นอาจถือสองสัญชาติ
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
30ธงชาติของสเปนMFซูโซ
31ธงชาติของอังกฤษMFราฮีม สเตอริง
35ธงชาติของอังกฤษDFคอเนอร์ โคดี
36ธงชาติของอังกฤษDFสตีฟ เออร์วิน
38ธงชาติของอังกฤษDFจอห์น ฟลานาเกน
41ธงชาติของเดนมาร์กGKมาร์ติน แฮนเซน
42ธงชาติของฮังการีGKปีเตอร์ กูลัคชี
43ธงชาติของออสเตรเลียGKดีน บูซานิส
44ธงชาติของสเปนDFเอมมานูเอล เมนดี
45ธงชาติของอังกฤษMFโทมัส อินซ์
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
47ธงชาติของอังกฤษDFอังเดร์ วิสดอม
48ธงชาติของอาร์เจนตินาMFเกร์ราโด บรูนา
49ธงชาติของอังกฤษDFแจ็ค โรบินสัน
ธงชาติของอังกฤษGKดีล แชมเบอร์เลน
ธงชาติของสกอตแลนด์MFอเล็กซ์ คูเปอร์
ธงชาติของเดนมาร์กMFนิโกลา โคห์เลิร์ต
ธงชาติของอังกฤษMFไมเคิล โรเบิร์ตส์
ธงชาติของเดนมาร์กFWนิโกลา ซาริช
Flag of the Czech RepublicDFจาค็อบ โซโคลิค
ธงชาติของอังกฤษMFโคเนอร์ โธมัส (ยืมตัวมาจากสโมสร โคเวนทรีซิตี)

[แก้]ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว

Note: ธงชาติที่ปรากฎบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่า ตามความเหมาะสม เพราะบางผู้เล่นอาจถือสองสัญชาติ
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
1ธงชาติของออสเตรเลียGKแบรด โจนส์ (ไปสโมสร เดอร์บีเคาน์ตี จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010-11)[4]
3ธงชาติของอังกฤษDFพอล คอนเชสกี (ไปสโมสร นอตติงแฮม ฟอร์เรสต์ จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล2010–11)[5]
12ธงชาติของสเปนFWดาเนียล ปาเชโก (ไปสโมสร นอริช ซิตี จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010-11)[6]
32ธงชาติของอังกฤษDFสตีเฟน ดาร์บี (ไปสโมสร น็อตส์เคาน์ตี จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010–11)[7]
39ธงชาติของอังกฤษFWนาธาน เอคเคิลสตัน (ไปสโมสร ชาร์ลตันแอทเลติก จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010–11)[8]
40ธงชาติของสเปนDFดาเนียล อยาลา (ไปสโมสร เดอร์บีเคาน์ตี จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010-11)[9]
46ธงชาติของอังกฤษMFเดวิด อามู (ไปสโมสร ฮัลล์ซิตี จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010-11)[10]
หมายเลขตำแหน่งผู้เล่น
ธงชาติของโมร็อกโกMFนาบิล เอล ซาร์ (ไปสโมสร พีเอโอเค จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010–11)[11]
ธงชาติของอิตาลีMFอัลแบร์โต อากวิลานี (ไปสโมสร ยูเวนตุส จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010–11)[12]
ธงชาติของสวิตเซอร์แลนด์DFฟิลิปป์ เดเกน (ไปสโมสร สตุ๊ตการ์ต จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010–11)[13]
ธงชาติของอาร์เจนตินาDFเอมิเลียโน อินชัว (ไปสโมสร กาลาตาซารายจนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010–11)[14]
ธงชาติของอังกฤษMFฌอน ไฮห์เดล (ไปสโมสร นิวทาวน์ จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010-11)[15]
ธงชาติของฝรั่งเศสDFคริส มาแว็งกา (ไปสโมสร เรสซิงคลับเคงก์จนกว่าจะจบการแข่งขันในฤดูกาล 2010-11)[16]

[แก้]อดีตผู้เล่น

[แก้]สต๊าฟ โค้ช

ณ วันที่ 9 มกราคม 2011[17]
ชื่อตำแหน่ง
ธงชาติของสกอตแลนด์ เคนนี ดัลกลิชผู้จัดการทีม
ธงชาติของอังกฤษ แซมมี ลีผู้ช่วยผู้จัดการทีม
ธงชาติของสกอตแลนด์ สตีฟ คลาร์กโค้ช
ธงชาติของอังกฤษ ไมค์ แคลลีโค้ชผู้รักษาประตู
ธงชาติของอังกฤษ จอห์น แม็คมานผู้จัดการทีมสำรอง
Flag of the Netherlands จอห์น อาร์ชเตอร์เบิร์กโค้ชผู้รักษาประตูสำรอง
ธงชาติของอังกฤษ ไมค์ แม็คกลีนผู้ช่วยหัวหน้าแมวมอง
ธงชาติของออสเตรเลีย ปีเตอร์ บรัคเนอร์หัวหน้าฝ่ายแพทย์และวิทยาศาสตร์การกีฬา
ธงชาติของอังกฤษ ซาฟ อิคบัลแพทย์ประจำสโมสร
ธงชาติของออสเตรเลีย ดาร์เรน เบอร์เจสหัวหน้าฝ่ายฟิตเนส
ธงชาติของออสเตรเลีย ฟิล โคลส์หัวหน้านักกายภาพบำบัด
ธงชาติของอังกฤษ ร็อบ ไพรซ์นักกายภาพบำบัด
ธงชาติของออสเตรเลีย แอนดรูว เนียลอนนักกายภาพบำบัด
ธงชาติของอังกฤษ แม็ตต์ คาน็อปปินสกีนักกายภาพบำบัด
ธงชาติของอังกฤษ คริส มอร์แกนนักกายภาพบำบัด
ธงชาติของอังกฤษ จอร์แดน มิลซัมโค้ชฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกาย
ธงชาติของอังกฤษ อลัน แม็คคอลนักวิทยาศาสตร์การกีฬา
ธงชาติของสเปน อีวาน ออร์เตกานักบำบัดโรคทางกีฬา
ธงชาติของอังกฤษ พอล สมอลล์หมอนวด
ธงชาติของอังกฤษ เกรแฮม คาร์เตอร์ผู้จัดการด้านชุดแข่ง
ธงชาติของอังกฤษ ลี ราดคลิฟฟ์ผู้ดูแลชุดแข่ง
ธงชาติของอังกฤษ แบร์รี่ ดรัสต์ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา
ธงชาติของอังกฤษ เจมส์ มอร์ตันที่ปรึกษาด้านโภชนาการ
ธงชาติของอังกฤษ บิลลี พาร์รีนักวิเคราะห์วิดีโอ
ธงชาติของอังกฤษ อเล็ก สก็อตต์ผู้ช่วยวิเคราะห์การแข่งขัน
ธงชาติของอังกฤษ เจมส์ มาโลนSports Science Graduate

[แก้]ผู้จัดการทีม

ณ วันที่ 27 มกราคม 2011
ชื่อ↓สัญชาติ↓ตั้งแต่↓ถึงการแข่งขัน↓ชนะ↓เสมอ↓แพ้↓% ชนะ[A]↓เกียรติประวัติหมายเหตุ
วิลเลียม บาร์คเลย์
จอนห์ แม็คเคนนา
ธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ
Flag of Irelandไอร์แลนด์
15 กุมภาพันธ์ 189216 สิงหาคม 189613180203161.07Lancashire League championship, 2Division Two championships[18][B]
ทอม วัตสันธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ17 สิงหาคม 18966 พฤษภาคม 191574232914127244.34Division One championships[19]
เดวิด แอชเวิร์ธธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ18 ธันวาคม 191912 กุมภาพันธ์ 192313870402850.72Division One championship[20]
แม็ต แม็คควีนธงชาติของสกอตแลนด์ สกอตแลนด์13 กุมภาพันธ์ 192315 กุมภาพันธ์ 192822993607640.61Division One championship[21]
จอร์จ แพ็ตเธอร์สันธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ7 มีนาคม 19286 สิงหาคม 19363661378514437.43[22]
จอร์จ เคย์ธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ6 สิงหาคม 1936มกราคม 19513571429312239.78Division One championship[23]
ดอน เวลช์ธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ23 มีนาคม 19514 พฤษภาคม 195623281589334.91[24]
ฟิล เทเลอร์ธงชาติของอังกฤษ อังกฤษพฤษภาคม 195617 พฤศจิกายน 195915076324250.67[25][26]
บิลล์ แชงค์ลีย์ธงชาติของสกอตแลนด์ สกอตแลนด์1 ธันวาคม 195912 กรกฎาคม 197478340719817851.98Division One championships, 4Charity Shields 2 FA Cups, 1 UEFA Cup, 1 Division Two championship[27]
บ๊อบ เพสลีย์ธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ26 สิงหาคม 19741 กรกฎาคม 19835353071329657.38Division One championships, 5Charity Shields, 3 Football League Cups, 3 European Cups, 1 European Super Cup, 1 UEFA Cup[28]
โจ เฟแกนธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ1 กรกฎาคม 198328 พฤษภาคม 198513170372453.44Division One championship, 1European Cup, 1 Football League Cup[29]
เคนนี ดัลกลิชธงชาติของสกอตแลนด์ สกอตแลนด์30 พฤษภาคม 198521 กุมภาพันธ์ 1991307187784260.91Division One championships, 2 FA Cup, 4 Charity Shields (2 Shared)[30]
รอนนี โมแรนธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ22 กุมภาพันธ์ 199115 เมษายน 19911041540.00[31][C]
แกรม ซูเนสส์ธงชาติของสกอตแลนด์ สกอตแลนด์16 เมษายน 199128 มกราคม 199415765474541.40FA Cup[32]
รอย อีแวนส์ธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ31 มกราคม 199412 พฤศจิกายน 1998244123635850.41Football League Cup[33]
เชราร์ อุลลิเยร์ธงของประเทศฝรั่งเศส ฝรั่งเศส16 กรกฎาคม 199824 พฤษภาคม 2004325165817950.77Football League Cups, 1 FA Cup, 1UEFA Cup, 1 European Super Cup, 1Charity Shield[34][D]
ราฟาเอล เบนิเตซธงของประเทศสเปน สเปน16 มิถุนายน 20043 มิถุนายน 2010350194777955.43European Cup, 1 FA Cup, 1European Super Cup, 1 Community Shield[35]
รอย ฮอดจ์สันธงชาติของอังกฤษ อังกฤษ1 กรกฎาคม 20108 มกราคม 201131139941.94
เคนนี ดัลกลิชธงชาติของสกอตแลนด์ สกอตแลนด์8 มกราคม 2011ปัจจุบัน1574446.67

[แก้]หมายเหตุ

A^  % ชนะจะปัดเศษเป็นทศนิยมสองตำแหน่ง
B^  ในเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของลิเวอร์พูลได้ระบุไว้ว่า บาร์คเลย์ และ แม็คเคนนา เป็นผู้จัดการทีมร่วม โดย บาร์คเลย์ เป็น "ผู้จัดการเลขานุการ" และ แม็คเคนนา เป็น "ผู้จัดการโค้ช"
C^  รอนนี โมแรน เป็นผู้จัดการทีมชั่วคราว แหล่งข้อมูล: lfchistory.net
D^  อุลลิเยร์ ป่วยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2001 ถึงเดือนกุมภาพันธ์ 2002, ทำให้ พิล ทอมป์สัน ได้มาเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราวแทน (ลงเล่น 33 ชนะ 16 เสมอ 12 แพ้ 5) โดยสถิติของทอมป์สัน ถูกรวมอยู่ในสถิติของอุลลิเยร์แล้ว

[แก้]เกียรติประวัติ

[แก้]ภายในประเทศ

[แก้]ลีก

[แก้]คัพ

[แก้]ยุโรป

[แก้]ชนะเลิศสองรายการและสามรายการ